ร้านที่จะมารีวิวในวันนี้เป็น คือร้านFormel B หนึ่งในร้าน Michelinstar เก๋าของเมืองที่รักษาดาวเอาไว้ได้เกือบ20ปีแล้ว
ก่อนเข้าเรื่องมีอะไรอยากจะเล่าครับ ผมไปร้านสายเนื่องจากรอกระเป๋าจากออสโลที่สนามบินนานกว่าเวลาบินสามเท่า ไม่นับรวมไฟลท์ที่ต้องเปลี่ยนเนื่องจากสายการบิน SASมีการสไตร์ทพอดี ✈️ใครวางแพลนเที่ยวยุโรปช่วงนี้ควรวางเพลนไม่เเน่นไปนักนะครับ
🏢 ร้านนี้มีบรรยากาศที่สบายๆกว่าร้านมิชลินสตาร์ปกติ ค่อนข้าง Informal สบายๆจนรู้สึกเหมือนไวน์บาร์มากกว่าร้านติดดาว โดยร้านมีน้ำวางบนโต๊ะให้บริการตัวเอง ส่วนไวน์นั้นแม้มีCellarที่ดีที่สุดเเห่งนึงในนอร์เวย์แต่ก็มีราคาสูงตามปกติภูมิภาคนี้ โดยไวน์ที่นี้จะเน้น old world เป็นหลักเน้นหนักไปทางเบอร์กันดี เบียร์ตรงกันข้ามราคาดีจนน่าเเปลกใจ บางอย่างถูกกว่ากินในบาร์ธรรมดาๆใต้โรงแรมเสียอีก รวมถึงยังมีVintage gueuze ที่หายากให้ได้ลองอีกด้วย จะรออะไร รวมถึงมี ดื่มเบียร์สิครับ
🧑🍳 ตำนานของ Formel Bนั้นเริ่มในปี2003 เมื่อChef Kristian Arpe-Møller และ restuarant manager Rune Amgild Jochumsen ได้เทคโอเวอร์ร้านจากเจ้าของคนก่อน โดยในขณะนั้นทั้งคู่มีอายุเพียง20ต้นๆ เพียงเวลาแค่ปีเดียวหลังเปิดร้านก็ได้รับดาว จวบจนปัจจุบันร้าน Formel B เป็นร้านอาหารที่รักษาดาวไว้ได้ยาวที่สุดในเดนมาร์ก
😋 สำหรับอาหารนั้นมีทั้ง Formel B menu (1250 DKK)ที่จะเปลี่ยนไปตามSeason และ 5-SERVINGS SIGNATUR MENU(1000 DKK) โดยผมเลือกสั่ง signature จานในซิกเนเจอร์ดูน่าทานทุกอัน เอานี่ละกัน แถมผมอยากกินสั้นหน่อยจะได้กลับไปนอนเร็วๆ เดินทางมาค่อนข้างเหนื่อยครับ แต่เอาจริงๆ เมนูเทสติ้งดูคุ้มกว่าเพิ่มจานละราว500บาท
โดยรวมอาหารนั้นมีจำนวนจานที่อาจจะดูน้อยไปนิดแต่แลกมาด้วยขนาดที่ใหญ่ขึ้นพอสมควร เอาจริงๆแม้จะอิ่ม แต่ด้วยราคาที่จ่ายไปผมแอบคาดหวังอะไรที่มากกว่านี้ แม้อาหารทุกจานนั้นทำออกมาได้ดีแม้อาจจะดูไม่ได้สดใหม่ทันสมัยตามสมัย แต่ก็ได้เห็นวิวัฒนาการของร้านอาหารชื่อดัง แต่ส่วนตัวว่าขนมหวานและเมนด์อาจจะดูดรอปกว่าจานก่อนหน้าๆพอสมควร แต่อย่างไรก็ตามนับเป็นประสบการณ์ที่น่าสนใจที่ได้ลองจานซิกเนเจอร์ของร้านเก๋ารุ่นลายครามของเมืองเเห่งนี้นับเป็นสิ่งที่ไม่ควรพลาด
Crispy tart with Danish mussels, leeks, lemon, and smoked cheese
ผมชอบคำนี้กว่ามากAmuse Bouche อีกคำนึง มันทำออกมาได้ลงตัวและน่าสนใจมากๆครับ เมื่อเข้าปากเราจะได้กลิ่นควันจากชีสนำมา รสเค็มอ่อนๆของมันช่วยขับรสหวานอุมามิของลีคและหอยได้อย่างนุ่มนวล รสเปรี้ยวของเลม่อนบางๆนั้นเพิ่มรสเปรี้ยวอย่างนุ่มนวลซึ่งช่วยเพิ่มมิติให้กับจานนี้ได้อย่างดี เป็นอีกหนึ่งจานที่ทำออกมาได้ลงตัวดีครับ
Hand dived scallop with malt bread , sorrel, kohlrabi and jalepeño ตัวแป้งทำออกมาได้น่าสนใจมีกลิ่นมอลต์จางๆ ตามด้วยรสหวานเผ็ดเฉพาะตัวของโคราบี ตัวหอยเชลล์นั้นปรุงมาอ่อนๆมีรสเค็มนำรสหวานของเนื้อหอย พริกที่ใส่มานั้นมีกลิ่นอายอ่อนๆไม่ค่อยเผ็ดนัก ทำได้ดีตามมาตราฐานร้านครับ
ขนมปังของที่นี้มีสองตัว
ตัวแรกขนมปังMaltและFennel แปลกแต่ว่าดีไม่หยอก มีกลิ่นความเข้มข้นจากมอลตัดกับความหอมกลิ่นเฟนเนลอ่อนๆ รสหวานนิดๆในเนื้อขนมปังที่ฟูเบา กรอบบางๆ
อีกอันคือ Sourdough แบบดังเดิม ที่บริกรบอกเราว่าจะเหนียวหนึบกว่า ผิวกรอบไม่เเข็งมาก
ส่วนเนยทางร้านทำเอง เป็นแบบ salted double cream butter ที่มีความเข้มข้นมากๆ ส่วนตัวผมว่ากินกับขนมปังปกติเเล้วค่อนข้างหนักไป แต่ถ้ากินกับขนมปังที่มีกลิ่นเฟนเนลแล้ว กลิ่นเฉพาะตัวของมันช่วยลดความเลี่ยนได้ดีครับ
Baerii caviar with peas, crème fraiche, pickled green strawberries, hazelnut and whey sauce
จานนี้เชฟเลือกใช้คาเวียร์จากผู้ผลิตในเดนมาร์ก โดยเป็นไข่ปลาสเตอร์เจี้ยนสายพันธ์ุไซบีเรีย ความดีงามในจานนี้อย่างแรกที่ต้องยกมาพูดถึงคือถั่วที่มีเท็กเจอร์กรุบๆคล้ายอิคุระชั้นยอดแสนจะมีเอกลักษณ์ รสหวานและกลิ่นเขียวนิดๆของมันเข้ากับดาชิแอปเปิลเเละเวย์ที่มีความเปลี่ยนหวาน ที่ถูกผสมผสานให้เข้ากันด้วยกลิ่นเฉพาะตัวของน้ำมันเฮเซลนัทที่มีกลิ่นหวานเอิรธิ์ตี้ เชฟเพิ่มความครีมมี่นิดๆด้วยครีม และรสเค็มอ่อนๆจากคาเวียร์ชั้นเยี่ยม รสสตอเบอรี่อ่อนของสตอเบอรรี่ดิบดองเเทรกเพิ่มมิติ
จานนี้สุดยอดมากแม้ใช้มาตรฐานสูงสุดประเมิน ซับซ้อน ลงตัว และละเอียดอ่อน มากๆครับจานนี้
New potatoes กับ lovage emulsion, pickled pine, aged cheese and whey sauce
จานนี้เป็นหนึ่งสุดยอดผลงานอย่างไม่ต้องสงสัย โดยเชฟเลือกเสริฟ์มันฟรั่งใหม่ต้มกับมันฟรั่งทอดแผ่นบาง รับประทานกับใบlovageอิมูชั่น ลูกไพนฺ์ดอง ชีสดองที่อยู่ด้านบน
จานนี้ทำออกมาได้ปราณีตและลงตัวมากๆ กลิ่นเขียวจากlovageให้ความหอมเย็นและมิติผสมผสานกับซอสรสเปรี้ยวอมเค็มของwheyได้อย่างลงตัวกอ่นจะเพิ่มความเค็มข้นด้วยชีสที่บ่มแล้ว โดยทั้งหมดนั้นไม่กลบรสเฉพาะตัวของมันฟรั่งที่มีเท็กเจอร์นุ่มหนักตัดกับบางกรอบที่ปรุงมาได้สุกพอดี เป็นจานที่อร่อยมากๆครับ
Roasted turbot with braised ox cheek and parsley/garlic sauce
ปลาเทอร์บอททอดกับแก้มวัว ซอสพาสลีย์และกระเทียม รับประทานกับหน่อไม้ฟรั่งและเกล็ดจากมันทอด หน่อไม้ฟรั่ง หากเทียบกับจานอื่นๆแล้วมันอาจจะดูธรรมดาไปนิดแต่ก็ทำออกมาได้ดี
ตัวปลาเนื้อเด้งอรอ่ยผิวกรอบนอก มีความฉ่ำในเนื้อเเม้จะถุกทอดมา เพิ่มเท็กเจอร์ด้วยมันฟรั่งกรอบๆ ซอสมีความครีมที่เเละเข้มข้นกว่าที่คิดโดยมีกลิ่นความเข้มข้นของกระเทียมเป็นฐานที่ถูกสอดแทรกด้วยความเขียวของพาสลีย์เป็นช่วงๆ แต่ตัวทีเด้ดของจานนี้เห็นจะเป็นแก้มวัวที่เข้ากับปลากับซอสอย่างไม่น่าเชื่อคือมันมีรสที่เข้มข้นและมีกลิ่นสมุนไพรบางๆอย่างanise โดยส่วนตัวคิดว่าจานนี้รสเข้มข้นมากและหนักมากๆกับปริมาณที่เสริฟ์จนอาจอาจจะลดความยอดเยี่ยมของมันไปบ้าง
Sea buckthorn en surprise
ขนมหวานซิกเนเจอร์ของร้าน หรือน้องเม่น มันเป็น เมอรแรงค์ เค้กช็อตโกแลต วานิลาไอซ์ครีม และซีบัคทอร์นเจล
เซอรไพร์สจริงๆ มันเรียบง่ายกว่าที่คิดมาก 555 ตัวช็อคโกแลตที่ใช้ขมอ่อนๆนิดไม่เปรี้ยวฟรุตตี้ทำให้ไม่กลบกลิ่นของวนิลาที่รสค่อนข้างอ่อน เพิ่มความหวานด้วยเมอร์แรงเนื้อกรอบเบาไม่เหนียวหวานเมอรเเรงเบาดี ไม่เหนียว มีกลิ่นไหม้หอมอ่อนๆ เมื่อกินๆไปจะได้รสเปรี้ยวซีบัคทอน ที่ข่วยลดเลี่ยนละเปลี่ยนรสให้ไม่จำเจ
🍾Service : 7.75/10
🍽Food: 8.25/10
🤩WOW factor: 7.5/10
💰Value for money: 8/10
Total: 8/10
Visit : July-2022
🗺เเผนที่ : https://goo.gl/maps/9LDqvS162y2Qh2qz5
⏰เวลาเปิดปิด: 5:30PM–12AM ,closed on Sunday
💵ค่าเสียหาย: ~1000 DKK
⌨️เว็บไซต์ร้าน: https://formelfamily.dk/formelb/en/
เราเป็นเพจรีวิวร้านอาหาร Fine dining แบบจริงใจและเจาะลึกทั้งในไทยทั่วโลก
ชอบช่วยกดไลค์ ใช่ช่วยกดเเชร์ เพื่อเป็นกำลังใจให้เรา #บอสพาชิม #eatliketheboss
Website: www.eatlikethebossth.com
InstaGram: @eatliketheboss (https://goo.gl/DqzWfN )
FaceBook: บอสพาชิม (https://goo.gl/gHPnnG)
Blogdit: https://www.blockdit.com/eatliketheboss
Email : eatlikethebossth@gmail.com
Comments