Gustav เป็นอีกหนึ่งรีวิวที่ผมดองไว้จากทริปการเดินทางไป Frankfurt เมื่อต้นปี เเม้เวลาจะผ่านมาพอสมควรเเต่ผมก็ยังจำความตื่นเต้นเเละประทับใจในวันนั้นได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ร้าน Gustav นั้นได้รับการยกย่องในระดับหนึ่งจากสารพัดไกด์ชวนชิมชั้นนำ โดยมิชลินไกด์ได้มอบดาวมิชลินหนึ่งดวงให้กับทางร้าน รวมถึงไกด์คู่เเข่งอย่าง Gault & Millauนั้นได้ให้คะเเนน16/20 เป็นการแสดงถึงมาตราฐานของร้าน Gustav ได้เป็นอย่างดี
สำหรับเมนูของทางร้านมีเพียงเซทเมนูครับโดยเราสามารถเลือกได้ว่าจะรับ4/5/6 คอร์ส ส่วนไวน์เเพรริ่งของร้านที่ผมสั่งนั้นมีระบบที่น่าสนใจพอสมควรครับโดยมีราคาเดียวคือ 10 Eurต่อเเก้ว ซึ่งเราจะเลือกเเค่เเก้วเดียวก็ได้หรือจะรับประทานหกเเก้วก้ได้ ขึ้นอยู่กับคอของเเต่ละท่าน เเละทางร้านไม่ได้มีเเพร์ริ่งที่ตายตัวเราสามารถเลือกเเจ้งบริกรได้ว่าเราชอบไวน์เเบบไหนเเละบริกรจะทำการเเมทชิ่งให้ดีที่สุดกับมื้ออาหาร
โดยเชฟ Joachim Busch ซึ่งเป็นผู้กำกับดูเเลร้านอาหารเเห่งนี้ ได้รับเเรงบันดาลใจจากอาหารเยอรมันพื้นถิ่นในแถบภูมิภาค Rheingau,Rhön Mountains,Odenwald,Wetterau ซึ่งเป็นแถบบ้านเกิดของเชฟ รวมถึงการใช้วัตถุดิบพื้นถิ่นที่สดใหม่รังสรรค์ออกมาเป็นเมนูในร้านนี้ จนทำให้เชฟโจอาคิม ได้รับรางวัล Gault & Millau’s ‘discovery of the year’ในปี 2016 จากสไตล์อาหารที่มากเอกลักษณ์ของเขา
ส่วนมากคนมักคิดว่าอาหารเยอร์มันนั้นน่าเบื่อเเข็งทื่อเเละมีเเต่เนื้อสัตว์กับการปรุงที่เรียบง่าย เเต่ทว่าอาหารของ Gustav นั้นมีการจับคู่ส่วนประกอบที่น่าสนใจเเละชวนให้ตะลึงในทุกจาน การปรุงรสของอาหารมีความเรียบง่ายไม่สลับซับซ้อนเเต่ปรุงได้อย่างปราณีตกลมกล่อมในทุกๆจาน รสชาติอาหารของGustav เเสดงให้เห็นถึงส่วนประกอบที่ชัดเจนและมีรสเข้มข้นแฝงด้วยลูกเล่นเล้กๆน้อยๆที่เเพรวพราว ทำให้ใครๆก็ต่างก็หลงรักอาหารที่นี้ได้ง่ายๆ
ในส่วนของการบริการของทางร้านเป็นส่วนผสมที่ลงตัวของความสบายๆเเต่มีความเป็นมืออาชีพ บริกรของทางร้านมีความสบายๆเป็นกันเองพูดคุยเล่นกับลุกค้าได้อย่างกลมกลืนเเม้เเต่กับผมที่เป็นลูกค้าขาจรก็ตาม เต่ทว่าขั้นตอนการบริการกลับไม่มีอะไรขาดตกบกพร่องรวดเร็วเเละมีประสิทธิภาพ มุขตลกและความใส่ใจเล็กๆน้อยๆตลอดมื้อจากบริกรทำให้มื้ออาหารไฟน์ไดน์นิ่งมื้อนี้ไม่เคร่งเครียดเกินไปนัก เเต่ยังคงความเนี้ยบตามมาตราฐานของร้าน
โดยในวันนี้ผมได้เลือกเทสติ้งเมนูหกจานพร้อมไวน์เเพร์ริ่งจะมีอะไรบ้างไปชมจากรูปได้เลยครับ
Amuse bouche ของเราจานเเรกเป็นจานที่ได้รับเเรงบันดาลใจจากsauerkrautอาหารขึ้นชื่อของเยอร์มัน โดยเชฟจะทำเเครกเกอร์สอดไส้ซาวด์ครีมก่อนท็อปด้วยกะหล่ำปลีดอง ตัวเเครกเกอร์ของร้านมีลักษณะคล้ายกระทงทองเเป้งบางกรอบ ไส้ครีมรสเปรี้ยวนิดๆเข้ากันได้อย่างกลมกล่อมกับรสหวานของกะหล่ำปลี เป็นคำเเรกที่เริ่มต้นที่ช่วยเปิดประสาทรับรสได้ดี
ในส่วนขนมปังของทางร้านเป็นขนมปังRye ตัวเนื้อนั้นนุ่มเหนียวมีกลิ่นเบอร์กาม็อตชวนสดชื่นส่งออกมาจางๆช่วยเพิ่มลูกเล่นให้กับขนมปังชิ้นนี้ได้อย่างลงตัว เมื่อรับประทานกับครีมที่ดัดเเปลงจากFrankfurt green sauce ช่วยชูความสดชื่นได้ดีทีเดียวครับ ขนมปังของทางร้านนี้ทำให้ผมค่อนข้างเซอรไพร์ส ที่ขนมปังที่ดูเป็นของที่ดูหนักกลับทำออกมาให้มีรสสดชื่นได้ขนาดนี้ อร่อยมากๆจนผมขอเพิ่มเลยครับ
จานต่อมายังคงเป็นในส่วนของAmuse Bouche โดยด้านล่างนั้นจะเป็นซุปถั่วเเลนทิลเเละเเฮมรมควัน รสหวานของถัวตัดกับรสเค็มจากเเฮม ทำออกมาได้ดีครับเเต่ผมว่าเมื่อเทียบกับจานอื่นในมื้อนี้ยังขาดความน่าสนใจไปบ้าง ส่วนในด้านบนเป็นเเซนวิชที่ทำจากหัวราดิช เบค่อนกรอบ เเละเเตงกวาดอง ซึ่งอร่อยมากๆครับ หัวราดิชให้กลิ่นผักเเละขมนิด เบค่อนรสเค็มให้กลิ่นจากเนื้อสัตว์ เเละเเตงกว่ารสเปรี้ยวหวานเป็นตัวเชื่อมทั้งสองเข้าด้วยกันยอดเยี่ยมมากๆ
อาหารจานเเรกของผมเป็น แพนเค้กเเละกะหล่ำปลี่ ตบเเต่งด้านบนด้วยเม็ดเรป (Rapeseed)เเละทรัฟเฟิล ก่อนราดด้วยซอสที่ทำจากครีมเเละต้นหอมญี่ปุ่น เป็นหนึ่งในจานที่ผมชอบที่สุดในคืนนี้ จานนี้ถือว่าเหนือความขาดหมายกับวัตถุดิบง่ายๆอย่างกะหล่ำปลีปรุงมาได้อย่างยอดเยี่ยมกรอบนิดๆ ตัวมันมีรสหวานของผักอย่างเต็มที่ตัดด้วยรสเค็มอ่อนของซอส กลิ่นหอมของทรัฟเฟิลนั้นชวนให้เราน้ำลายสอเเละผสมผสานกับกลิ่นต้นหอมญี่ปุ่นได้อย่างยอดเยี่ยม ปิดท้ายด้วยเมล็ดเรปที่สร้างความกรุบกรอบได้อย่างสนุกสนาน เป็นจานที่ชื่อในเมนูเบสิคมากอย่างCabbage เเต่ของจริงนั้นสุดยอดมากๆครับ
จานต่อมานั้น ในตอนเเรกผมนึกว่าคือหน่อไม้ฟรั่งขาวเเต่ไม่ใช่ครับมันคือ salsify root ซึ่งเสริฟ์มากับซอสสองชนิดคือซอสจากที่ทำจากต้นลีคเเละซอสที่ทำจากไข่เเดง ด้านบนของจานนี้นั้นท็อปด้วยเมล็ดลินหรือเมล็ดเฟลกซ์(linseed)เเละกระเทียมกรอบ ในจานนี้ผมชอบการผสมผสานของซอสสองตัวที่กลมกล่อมไปด้วยกันได้ดีมากโดยตัวนึงช่วยเพิ่มกลิ่นหอมชวนหิวอีกตัวนึงเพิ่มความมันเข้มข้น การใส่กระเทียมกรอบเเละเมล็ดลินช่วยเพิ่มความสนุกให้กับจานนี้ได้อย่างกลมกล่อม เป็นอีกจานที่ดีเเละน่าสนใจมากๆครับ
ถัดไปคือปลาไพค์เพิช (pikeperch fish) กับ ซอสจากครีมเเละหน่อไม้ฟรั่ง รับประทานกับบรัซเซลสเปรทเเละเบค่อนบด ปลาปรุงมาได้อย่างยอดเยี่ยมไขมันในเนื้อปลายังมีอยู่อย่างเต็มเปี่ยมส่วนหนังหนังบางกรอบรสเค็มนิดๆ จานนี้อร่อยมากๆเเละปรุงมาได้อย่างเพอร์เฟ็คทั้งปลาเเละซอส ส่วนเครื่องเคียงอย่างบรัซเซลสเปร้าทเเละเบค่อนนั้นทั้งอร่อยเเละน่าตื่นตาตื่นใจ เเต่กลับดูไม่ค่อยเข้ากับปลาเท่าไหร่
จานต่อมาเป็นหัวใจเป็ดย่างกับเอลเดอรฟราเวอรซอส รับประทานคู่กับคะน้าและใบคะน้าทอด จานนี้ผมชอบการจับคู่ของหัวใจเป็ดเเละซอสรสหวานอย่างเอลเดอร์พลาเวอร์ก่อนที่จะตัดด้วยความขมจากคะน้าซึ่งมีความน่าสนใจเอามากๆ เเต่โดยส่วนตัวผมว่าหัวใจเป็ดนั้นเหนียวไปนิดนึง
จานหลักของผมเป็นเนื้อย่างกับซอสเห็ดพอชินี่ดอง เคียงด้วยเห็ดหอยนางรมย่าง กินกับมันบดเเละซอสหางวัว,เบค่อน,ต้นหอม จานนี้ก็ทำมาได้ดีครับตัวซอสนั้นน่าทึ่งจากกลิ่นเเละรสเฉพาะตัวที่ยากจะอธิบายซึ่งผมไม่ค่อยชอบนัก จานนี้ดูน่าเบื่อไปบ้างอาจจะเป็นเพราะซอสที่มีส่วนประกอบจากลีคที่เราจะพบได้ในหลายๆจาน
มันบดของเรา
มาถึงจานขนมกับบ้างในวันนี้ผมเลือก ไอติมเจรูซาเล็มอาติโช้คกับไซรัปจากบีทรูท เพิ่มความกรุบกรอบด้วยกะหล่ำหอมทอดเเละเมล็ดทานตะวัน จานนี้ผมตะลึงเอาเลยละครับเเละตั้งตารอตั้งเเต่เริ่มมื้ออาหาร ตัวไอซ์ครีมมีรสที่เฉพาะตัวกลิ่นของเจรูซาเล็มอาติโช้คกลิ่นเขียวนิดๆเข้ากับความเย็นเเละหวานนำขมในปาก ไซรัปจากบีทรูทช่วยเพิ่มรสหวานบนขมเเละมิติให้กับขยนมจานนี้ได้ดีมากๆ ผักกาดหอมทอดคงเป็นเครื่องเคียงที่หลายคนไม่คาดคิดเเต่มันกลับเข้ากับจานนี้ได้อย่างลงตัว เป็นจานขนมหวานที่หลุดโลกไปเลยทีเดียวครับ ยอดเยี่ยมมากๆๆๆๆครับ
.
#Score:
🍾Service : 8.75/10
🍽Food: 8/10
🤩WOW factor: 8.5/10
💰Value for money: 8.5/10
Total: 8.25/10
หากชอบบทความของผมยังไงรบกวนช่วยกดไลค์เพจเพื่อเป็นกำลังใจให้กับผู้เขียนด้วยนะครับ
🗺เเผนที่ : https://goo.gl/maps/EPYeoGJBc3ygtqY78
⏰เวลาเปิดปิด: 18.30-24.00
💵ค่าเสียหาย: ~160EUR included 6glass wine pairing
⌨️เว็บไซต์ร้าน: http://www.restaurant-gustav.de/english.html
ช่องทางติดต่ออื่นๆ Website: www.eatlikethebossth.com InstaGram: @eatliketheboss (https://goo.gl/DqzWfN ) FaceBook: บอสพาชิม (https://goo.gl/gHPnnG) ชอบช่วยกดไลค์ ใช่ช่วยกดเเชร์ #บอสพาชิม #eatliketheboss
Comments