top of page

Jungsik ผู้บุกเบิกอาหารเกาหลีผสมผสาน


Jungsik ผู้บุกเบิกอาหารเกาหลีผสมผสาน (Seoul,Korea)



รีวิวนี้เป็นรีวิวที่เรียกว่าดองไว้นานข้ามปีสำหรับร้าน Jungsik ร้านอาหารเกาหลีผสมผสานที่ได้รับรางวัลมิชลินสตาร์⭐️⭐️ถึงสองดวงจากการจัดอันดับของ Michelin guide ในปี2019

โดยสาเหตุที่เพจของเราเลือกร้านนี้นั้นผมได้เคยอธิบายไว้ใน รีวิวร้านอาหารอีกร้านนึงในทริปนั้นที่ลงไปก่อนหน้า เเละต้องขอบคุณพันทิปที่เลือกกระทู้ของผมเป็น Pantip pick มา ณ ที่นี้ที่รองเเก้วสวยมากๆครับ  โดยสามารถหาอ่านได้จากลิงค์นี้ครับ https://pantip.com/topic/38217145

อีกสาเหตุนึงนอกจากนี้คือ Jung Sik Yim Owner chef ของทางร้านได้รับการยอมรับถึงการบุกเบิกอาหารเกาหลีสมัยใหม่ โดยนิวยอร์กไทม์ได้เขียนไว้ว่า “It was only a matter of time before Korean cuisine got the nouvelle treatment, and a pioneer in this growing movement is Jung Sik Dang”

Jung Sik Yim เป็นศิษย์เก่าของสถาบันสองทำอาหารขึ้นชื่อในสหรัฐอเมริกาอย่าง CIA(Culinary Institute of America) เช่นเดียวกับเชฟต้นเเห่งห้องอาหาร ฤดูที่เคยลงรีวิวไว้ตามลิงค์นี้ () นอกจากนี้เขายังเพิ่มเติมความสามารถโดยการตระเวณฝึกงานต่างๆทั้งในอเมริกาเเละสเปน ก่อนกลับมาเปิดร้าน Jungsik ในบริเวณย่านสุดชิคอย่าง Cheongdam ที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโซล ก่อนที่จะเปิดสาขาที่สองขึ้นที่ Newyork


ผมเดินทางไปเยือน Jungsik ในเวลากลางวัน☀️โดยเเท็กซี่ ผมว่าการเดินทางในโซลนั้นเเท็กซี่นับเป็นหนทางที่สะดวกที่สุด ก่อนเดินขึ้นเนินจากถนนใหญ่เข้าไปเล็กน้อยก็จะถึงร้าน Jungsik ก่อนจะได้รับการตอบรับจากบริกรสาวท่าทางทะมัดทะเเมงผู้จะนำเราเดินขึ้นสู่ชั้นสองซึ่งเป็นที่ตั้งของส่วนห้องอาหารภายในร้าน

สำหรับเมนูในมื้อกลางวันของ Jungsikนั้นจะมีราคาถูกกว่ามื้อเย็นพอสมควร หากมีเวลาเเละต้องการประหยัดงบ(เช่นทีมงานของเรา ฮ่าๆ🙄) โดยมื้อกลางวันจะมีคอร์ส 4จาน 5จาน และ 8จาน ในขณะที่มื้อเย็นนั้นจะมี 5จาน เเละ 8จาน ทีมงานของเราคุยกันเเละตกลงว่าเราจะเลือกทานในตัว 8จานตัวเต็มของทางร้านอย่างไม่กลัวเสียเวลาเเม้เราจะมีไฟลท์ในเย็นวันนั้นเพราะดูมีความคุ้มค่าที่สุด เนื่องจากตัวสี่หรือห้าจานนั้นต้องมีการจ่ายเงินเพิ่มในออฟชั่นต่างๆที่รวมๆเเล้วออกมาราคาสูงทีเดียว สำหรับเมนูในปัจจุบันของทางสามารถดูได้ตามลิงค์นี้ครับ http://www.jungsik.kr/eat/

🤵🏻การบริการของร้าน Junsik นั้นมีมาตราฐานที่ดีเหมาะสมกับรางวัลต่างๆที่ได้รับ การบริการไม่มีข้อบกพร่องที่รู้สึกได้ชัด เเต่เราก็ไม่ได้รู้สึกถึงการบริการที่เป็นพิเศษหรือความใส่ใจในรายละเอียดต่างๆนอกเหนือจากสเเตนดาร์ดมาตราฐานของทางร้าน สิ่งหนึ่งที่ทำให้สึกตะขิดตะขวงใจคือความสามารถด้านภาษาอังกฤษของบริกรที่สื่อสารภาษาอังกฤษได้น้อยหรือบางคนไม่ได้เลย ส่วนนึงอาจจะเป็นเพราะผมไม่ชินกับสำเนียงภาษาอังกฤษของคนเกาหลีสักเท่าไหร่ เเต่เมเนเจอร์ของทางร้านที่พยายามเข้ามาช่วยเหลือรวมถึงจัดการให้ขนมหวานของเราออกมาเสริฟ์พร้อมกันสองจาน ที่เป็นการเเก้ปัญหาตามคำขอของเราที่ให้ช่วยเร่งอาหารให้เร็วขึ้นเเต่ไม่ใช่เพราะอาหารของทางร้านนานเกินเกณฑ์ปกติเเต่อย่างใด เนื่องจากอย่างที่กล่าวไปข้างต้นเรามีไฟลท์ต่อในช่วงเย็นวันนั้น



อาหารของ Jungsik เริ่มต้นด้วย Amuse bouche สะอาดตาหลากหลายคำที่ล้วนเเต่เป็นเมนูเกาหลีที่ถูกขัดเกลาเเละใส่ความเป็นตะวันตกลงไปอย่างเต็มเปี่ยม เมนูที่โดดเด่นมี กิมบับ(ข้าวห่อสาหร่าย)กับหอยนางรมเเละทรัฟเฟิลออยที่ลงตัวอย่างสุดๆ อีกคำที่ผมชื่นชอบเห็นจะเป็นโรลมูสครีมชีสกับโฟรกราอุ่นๆที่ชวนให้หัวใจพองโตจากความหอมละมุน หรือจะเป็นโคนมูสเเซลม่อนรมควันกับกิมจิที่ลงตัวอย่างน่าประหลาดใจ ก็ล้วนทำให้ผมทึ่งเเละเเสดงถึงอัตลักษณ์ของเชฟเเละเเนวทางของมื้ออาหารได้เป็นอย่างดี แม้จะมีบางคำที่โดยส่วนตัวมองว่ายังเฉยๆเมื่อเทียบกับคำอื่นไปบางเช่น เบอร์ด็อกชุบเเป้งทอดหรือกิมจิหัวไชเท้า ที่ยังดูธรรมดา เเต่โดยรวม Jungsik ก็ทำให้ผมทึ่งตั้งเเต่เริ่ม



จานต่อมาที่เสริฟ์เป็น DIY appetizer ซิกเนเจอร์ของทางร้าน(Gujeolpan V.3)เป็นสาหร่ายทอดห่อสารพัดไส้ ไม่ว่าจะเป็นไข่ปลาแซลม่อน ทูน่า ซัลซ่า เยลลี่คอมบุดาชิ สโม็คซาวน์ครีม กิมจิ สาหร่ายดอง มันมือเสือ วาซาบิ กิมจิ มันอาจจะดูมั่วไปหมดเเต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่คือหนึ่งในจานที่ผมชอบที่สุดในมื้อนี้ กิมจิกับซาวนด์ครีม ซัลซ่ากับไข่ปลา ทูน่ากับสาหร่ายดอง รสทุกอย่างผสมผสานภายใต้สาหร่ายทอดกรุบกรอบ เเท็กเจอร์ที่หลากหลายเวลาเคี้ยว รสสัมผัสที่ซับซ้อน กลิ่นอายที่ไม่อาจระบุสัญชาติ หากเปรียบเทียบเป็นคนอาหารจานนี้คงเป็นลูกครึ่งเกาหลี ญี่ปุ่น ผสมอเมริกาละมั้ง 😝



หอยเป๋าฮื้อเเละซอสซาบายอนกับผิวเลม่อน

คอร์สต่อมาเป็นอีกคอร์สนึงที่ผมชื่นชอบ 🐚เป๋าฮื้อกับซอสซาบายอน ที่ปรุงเป๋าฮื้อด้วยการนึ่งก่อนนำมาย่าง นอกจากเนื้อเป๋าฮื้อมีความนุ่มอร่อยเหมือนร้านซูชิชั้นนำเเล้วยังมีความหอมจากการย่างด้วยถ่านนิดๆ ยิ่งไปกว่านั้นซาบายอนที่เเต่งรสด้วยผิวเลม่อนอุ่นๆช่วยเพิ่มความหวานของเป๋าฮื้อให้ชัดเจน เป็นอีกจานที่เรียกว่าอร่อยมากๆครับ



อย่างไรก็ตามสามจานต่อมาเเม้มีความน่าสนใจในเเง่คอนเซ็ป ทั้งปลาหมึกซอสโกชูจัง🐙 ทรัฟเฟิลบูลโกกิกิมบับ🍄 หรือ 🐟ปลาredmulletย่างราดซอสน้ำมันงากับไวน์ เเต่ผมยังไม่ประทับใจเท่ากับจานก่อนหน้าทั้งหลาย ส่วนตัวผมว่ายังขาดๆเกินๆไปนิดไม่สมดุล ทั้งปลาที่ผมว่ากลิ่นควันฉุนไปนิดจนกลบกินของซอส ซอสทรัฟเฟิลที่ไม่ค่อยเข้ากับซอสบูลโกกิ หรือจะปลาหมึกที่เกือบจะเยี่ยมเเล้วเเต่ส่วนตัวว่าส่วนปลายหวดไหม้ไปนิด


อาหารจานหลัก(Hanwoo Galbi)นี้ไม่ใช่ซูชินะครับ 🍣 เป็นเนื้อซี่โครงเกาหลีย่างรับประทานกับใบชิโสะ ผักดอง เเละเห็ด เป็นจานเนื้อที่ผมว่าอร่อยมากเเละถือเป็นหนึ่งในซี่โครงย่างที่อร่อยที่สุดที่เคยทานมา 🤤 ตัวเนื้อนั้นนุ่มจนเเทบไม่ต้องตัด มีรสเข้นข้นของซอสเนื้อย่างเเต่ไม่มากจนทำให้ความหอมของเนื้อเเละกลิ่นควันถูกกลบ ความหนักเเน่นของเนื้อถูกเบรคใบชิโสะชวนสดชื่น ผักดองที่เพิ่มรสเปรี้ยวหวานปลายลิ้น หรือเห็ดที่เพิ่มกลิ่นเอริธ์ตี้ช่วยตัดเล่ี่ยน พูดเเล้วชวนน้ำลายไหลจริงๆ 🤤


เนื้อซี่โครงวัวเกาหลีย่างรับประทานกับใบชิโสะเห็ดย่างเเละข้าว



ขนมหวานถือว่าทำออกมาได้ดีตามมาตราฐาน Daechublanc จานซิกเนเจอร์ของทางร้านนั้นอร่อยมากๆครับ เเต่จานที่ผมชอบท่ีสุดคือ Sujeongwa ซึ่งเวอร์ชั่นของร้านJungsik เป็นน้ำซินาม่อนกับเยลลี่ขิงเเละพีชเชอรเบทที่สุดยอดมากตรงที่สามารถผสมความหอมเย็นอ่อนๆของพีชกับวัตถุดิบกลิ่นเเรงอย่างซินนาม่อนเเละขิงได้อย่างดี



จานซิกเนเจอร์ เจลาโต้เกาลัด ขนมปัง พิวเร่เกาลัด ผงกาเเฟ ครัมเบิ้ล เเละเกาลัดเชื่อม


เค้กbuckwheat และ เม็ดอัลม่อนเคลือบโกโก้

ก่อนจากกันทางร้านได้ให้ ช็อคโกเเลตบาร์ผสมกับfivespiced(พะโล้) เป็นของที่ระลึกให้ไปกินบนเครื่องเเก้หิว ซึ่งรสชาติอร่อยเเบบเเปลกๆดีครับ 😝 โดยส่วนตัวผมคิดว่า Jungsik เหมาะสมกับสถานะเเละเครดิตต่างๆที่ได้รับ จากการเป็นผู้บุกเบิกอาหารเกาหลีเเนวใหม่ ถ้าหากใครมีเวลาเเละอยากลองอาหารเกาหลีที่มีกลิ่นอายความเป็นตะวันตกชัดเจน ผมเเนะนำเลยครับ



🍾Service : 8.25/10 🍽Food: 8.5/10 🤩WOW factor: 8.75/10 💰Value for money: 8.25/10

Total: 8.5/10


หากชอบบทความของผมยังไงรบกวนช่วยกดไลค์เพจเพื่อเป็นกำลังใจให้กับผู้เขียนด้วยนะครับ

🗺เเผนที่ : https://goo.gl/maps/KJjht8ga1d32 ⏰เวลาเปิดปิด: 12PM-3PM / 5.30PM-10.30PM 💵ค่าเสียหาย: ~ 180,000 KRW/person ⌨️เว็บไซต์ร้าน: http://www.jungsik.kr


ช่องทางติดต่ออื่นๆ IG: @eatliketheboss (https://goo.gl/DqzWfN ) FB: บอสพาชิม (https://goo.gl/gHPnnG) ชอบช่วยกดไลค์ ใช่ช่วยกดเเชร์ #บอสพาชิม #eatliketheboss

Comments


Commenting has been turned off.
bottom of page