Ledu หรือ ฤดู เป็นร้านที่ตั้งชื่อสื่อให้ถึงฤดูกาลตามความตั้งใจของเชฟที่จะต้องการให้ทุกคนได้ลิ้มลองวัตถุดิบในเเต่ละฤดูกาล
อาหารของฤดูนั้นไม่ได้เรียบง่ายเเต่ไม่ได้ฟิวชั่นจ้า ฤดูไม่ได้เลือกเมนูที่ไม่คุ้นหูหรือหาทานยากตำรับโบราณเต่เลือกที่จะนำเสนอเมนูทำทานง่ายหรืออาหารที่เราคุ้นเคยในรูปเเบบการตีความที่เเตกต่างออกไป ผสมด้วยเทคนิคอาหารตะวันตก อาหารของฤดูดูเรียบง่ายเเต่ซับซ้อน เป็นอาหารจานที่ผสมผสานอาหารไทยตามครัวเรือนทั่วไปให้ดูเเตกต่างเเละมียกขึ้นไปอีกระดับ
ฤดู อาจจะเป็นร้านที่ทุกคนในฐานะร้านของของเซเลปบรีตี้เชฟชื่อดังอย่างเชฟต้นเเห่งรายการ Thailand Top chef เเต่ผมอยากให้ทุกท่านได้มาลองชิมฤดูในฐานะร้านอาหารของเชฟฝีมือยอดเยี่ยมมากกว่าร้านของเซเลปบริตี้เชฟชื่อดังมากกว่าครับ โดยเชฟต้นจบการศึกษาจากสถาบันโรงเรียนสอนด้านคหกรรมระดับโลกอย่าง CIA (The Culinary Institute of America) เเละฝึกงานในร้านดังๆในนิวยอร์กหลายที่อาทิเช่น Jean Georges ที่ได้รับ 3 Michelinstars
นอกจากนี้เชฟต้นยังเป็นCS (Certificated Sommerlier ) จาก Court of Master Sommelier หากใครสนใจเรื่องการสอบ Master Somerlier ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของทางสถาบันสามารถไปดูได้ใน Netflix ต่อได้นะครับ (https://www.netflix.com/search…)
หลังจากที่ผิดหวังไม่ได้มิชลินสตาร์ในปีเเรกของ @michelinguide ฉบับกรุงเทพ เชฟต้นก็ยังพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งจนได้หนึ่งดาวในปีล่าสุดจนได้ทำให้เป็นร้านอาหารเพียงไม่กี่ร้านในไทยที่ได้รับที่ได้รับรางวัล Asia Best restuarant (No.14) เเละ Michelin Guide star
สำหรับเมนูของร้านจะเป็นเทสติ้งเมนูเท่านั้นนะครับโดยมีสองออฟชั่นให้เลือก คือ 3590++ หกจาน และ2590++ สี่จาน โดยผมเเนะนำว่าเพื่อการลองซิกเนเจอร์ให้ครบถ้วนนั้นเมนูหกจานที่ไม่มีตัวเลือกให้นั้นนั้นน่าสนใจเลยทีเดียวครับ เเต่สำหรับท่านที่เป็นลูกค้าประจำข้อดีของ ฤดูคือมีคอร์สอาหารที่สามารถเลือกได้เช่นเดียวกัน ไม่ได้บังคับNo choiceเเบบร้านอาหารไฟน์ไดนิ่งหลายๆเเห่ง 😘
Amuse Broche ของร้านนั้นเป็น ม้าฮ้อของทานเล่นที่พักนี้เริ่มป็อปปูล่าในหมู่ร้านอาหารไทยไฟน์ไดนิ่ง
สำหรับม้าฮ้อของฤดูนั้นมีส่วนประกอบหลักเป็นสัปปะรดเเละถั่ว รสค่อนข้างออกหวานนำเปรี้ยวผสมผสานกับถั่วกรุบกรอบ รสไม่ได้ซับซ้อนมากนัก ทานง่ายๆเเละละมุนจากการใช้ผักชีลาวเเทนผักชีปกติ เป็นการเปิดจานเเรกที่เป็นจานนุ่มนวลเเละสวยงาม
Amuse Broche คำต่อมาคือกระทงทอง สำหรับกระทงทองของฤดูนั้นประกอบด้วยบีทรูทดองเเละมูสไก่
ผมชอบคำนี้มากๆ บีทรูทดองรสเปรี้ยวหวานแฝงขมนิดๆเข้ากับครีมไก่ที่เค็มหวานออกสโม็คกี้ได้ดีมาก
อีกสิ่งที่ประทับใจคือการจับคู่มูสไก่เเละบีทรูทเเทนที่จะเป็นเนื้อช่วยให้เท็กเจอร์ในปากของคำนี้ละมุนน่าสนใจมากกว่าการใช้เนื้อ มีลูกเล่นเวลาเคี้ยวจากเเป้งกระทง,บีทรูทเเละมูสได้อย่างน่าสนใจทีเดียว
อาหารจานเเรกคือ Seabrass🐟 เป็นเมี่ยงปลากระพงดอง ครีมจากกระทิเเละขิง เจลใบชะพูล ใบชะพูล เเละน้ำเมี่ยงจากส้มโอ
จานนี้มีความน่าสนใจเลยทีเดียว จานนี้เป็นจานที่ซับซ้อนเเต่ไม่มากรสจนสับสนยอดเยี่ยมมากๆครับ
การจับคู่กระทิเเละขิงนั้นลงตัวได้อย่างไม่น่าเชื่อ รสมันละมุนหอมหวานนิดๆเผ็ดหน่อยๆ ส่วนเพิ่มเติมความสดชื่นในจานนี้ด้วยใบชะพูลหลากหลายรูปเเบบนั่นก็ชวนให้อยากอาหารจริงๆ น้ำเมี่ยงจากส้มโอนั้นรสหวานละมุนกว่าน้ำเมี่ยงเเบบปกติที่คุ้นเคยทำให้ผสมผสานเข้ากับเนื้อปลาเเละซอสครีมได้อย่างเหลือเชื่อว่ากระทิกับน้ำเมี่ยงจะเข้ากัน
สิ่งนิดนึงที่ผมไม่ชอบคือผมว่าเนื้อปลากระพงดองที่เอามาทำให้ผิวสุกนิดๆนั้นมีความคาวนิดๆ
จานต่อมาเป็นต้มข่าอาหารยอดนิยมที่นำมาปรุงในฉบับของ ฤดู จานนี้ประกอบด้วยยำคะน้ากับกุ้งเเชบ๊วย🍤 น้ำมันหัวกุ้ง ซอสต้มข่าเเนมกับข้าวไรซ์เบอรรี่ทอด
เป็นการผสมผสานอาหารไทยง่ายๆสองชนิดอย่างต้มข่าเเละยำคะน้าเอาไว้ด้วยกันใจจานเดียว
คะน้าที่หวานกรอบไม่ขมกับรสเปรี้ยวเผ็ดจากน้ำยำช่วยชูรสของเนื้อกุ้งเเชบ๊วยหวานสดได้อย่างยอดเยี่ยม
เมื่อรับประทานกับซอสต้มข่ารสนุ่มละมุนหอมเย็นที่เรียกว่าซอสคงไม่ถูกนักเพราะผมคิดว่าเราสามารถทานได้เหมือนซุป จานนี้เพิ่มเติมลูกเล่นด้วยน้ำมันหัวกุ้งที่เพิ่มกลิ่นหอมเเละความอยากอาหารจานนี้ได้อย่างสวยงามเลยทีเดียว
เเต่จานนี้ถามว่าอร่อยไหมผมคงตอบว่าอร่อยอย่างไม่ลังเลเเต่โดยส่วนตัวคิดว่าจานนี้เป็นจานที่ใช้ส่วนประกอบมากไปจนลดจุดเด่นของอาหารทั้งสองจานอย่างน่าเสียดาย
จานต่อมาเสริฟ์เป็นสองส่วนครับ ด้านซ้ายเป็นหมูปั้นก้อนทอดทานกับครีมคะน้า ใบคะน้าทอด เเละคะน้าพูเร่ ด้านขวาเป็นปลาเก๋าทานกับซอสฉู่ฉี่
ผมเริ่มทานคำด้านขวาก่อนนะครับเเว๊บเเรกคือปลาเก๋าที่มีความสุกกำลังดีเนื้อมีความฉ่ำหวานมากๆ เนื้อกรอบเด้งที่ถูกชูรสให้ชัดเจนยิ่งขึ้นด้วยฉู่ฉี่รสกลมกล่อมเผ็ดนำหวาน จานนี้มีความสนุกปากเพิ่มเติมด้วยหนังปลาทอดกรุบกรอบอร่อยมากครับ
ด้านซ้ายก็ประทับใจผมไม่เเพ้กัน หมูปั้นทอดรสคุ้นเคยเข้ากันได้ดีกับซอสครีมคะน้ารสครีมมี่ติดฉุนเขียวที่ช่วยชูรสหมูทอดอย่างไม่น่าเชื่อ ใบคะน้าทอดด้านบนนั้นนอกจากช่วยเพิ่มเท็กเจอร์เวลาเคี้ยวเเล้วยังมีรสขมนิดๆในปากซึ่งช่วยเพิ่มมิติในคำนี้ได้อย่างน่าสนใจทีเดียว
จานนี้เป็นต้มยำ(ซอส)🍤กุ้งเเม่น้ำทานคู่กับไข่เจียวฟูในด้านขวา ส่วนด้านซ้ายเป็นข้าวหอมจากปายคลุกกะปิทานคู่กับหมูหวาน
ทั้งสองก็เป็นอาหารไทยที่คุ้นเคยกันทุกครัวเรือนเช่นกัน กุ้งเเม่น้ำที่ย่างมาได้สุกกำลังดีเข้ากับครีมต้มยำหอมสมุนไพรเปรี้ยวเผ็ดหวานได้ดี ชวนให้นึกถึงต้มยำน้ำข้นเเต่รสค่อนข้างละมุนจัดจ้านน้อยกว่าต้มยำไทยทำให้ชูรสหวานของกุ้งได้ดี เเต่โดยส่วนตัวผมว่าซอสออกครีมมากไปนิดนึงทำให้เรารู้สึกว่าจานนี้หนักไปนิดเเม่จะมีผักชีที่ใส่มาด้านบนช่วยเพิ่มรสโปร่งสดชื่นเเล้วก็ตาม ส่วนตัวไข่เจียวกรอบเบาที่มาเป็นเกล็ดด้านบนเข้ากันได้ดีอย่างเหลือเชื่อกับกุ้งเเม่น้ำ นับว่ายอดเยี่ยมสมกับเป็นจานซิกเนเจอร์เลยทีเดียว
อีกข้างนึงนั้นเป็นข้าวคลุกกะปิที่ตอนเเรกผมต้องสารภาพว่าคิดว่ามันเป็นเเค่ไม้ประดับของกุ้งเเม่น้ำสุดหรูเเต่เมื่อลองคำเเรกผมก็เปลี่ยนความคิดใหม่ครับ ข้าวที่นุ่มเหนียวนิดๆเคี้ยวสนุกคลุกกะปิรสเข้มข้นที่ไม่คาวเลย จานนี้สามารถเป็นอาหารจานเดี่ยวได้ด้วยซ้ำ อร่อยมากๆครับ
สำหรับอาหารจานหลักในวันนี้ผมเลือกเป็นหมูนะครับ โดจานนี้เชฟได้ดัดเเปลงข้าวขาหมูอาหารจานเดี่ยวที่เราคุ้นเคยกันดีมานำเสนอในอีกรูปเเบบ โดยใช้เนื้อหมูส่วนเเก้มมาซูวีหนึ่งคืนราดด้วยซอสขาหมูรับประทานคู่กับข้าวบาร์เลย์ บ็อกชอยดอง ไข่นกกระทาต้ม เเละซอสพริกหวาน
ผมประทับใจในจานนี้ที่สุดในมื้อครับ ส่วนประกอบต่างที่เลือกมาผสมผสานกันอย่างลงตัวยอดเยี่ยม การเลือกใช้ข้าวบาร์เลย์ที่ค่อนข้างกรุบกรอบกว่าข้าวหอมมะลิที่คุ้นชิ้นเข้ากันได้อย่างดีกับเนื้อหมูส่วนเเก้มที่กรอบเด้งสู้ปาก ตัวซอสรสเค็มเข้มข้นหอมเครึ่องพะโล้ช่วยชูรสหวานของเนื้อหมูให้เด่นชัดยิ่งขึ้น ซอสพริกดองรสเปรี้ยวหวานช่วยลดความเลี่ยนของอาหารจานนี้ได้อย่างกลมกลืน ยิ่งเมื่อรับประทานเเกล้มกับไข่นกกระทารสมันและบ็อกชอยรสเปรี้ยวยิ่งชูรสอาหารจานนี้ให้เด่นยิ่งขึ้นไปอีก เป็นจานที่ทำให้ผมทึ่งเป็นอย่างมากว่าข้าวขาหมูนั้นจะสามารถอร่อยได้ถึงปานนี้
Pre dessert ของเรานั้นเป็นไอซ์ครีมสาโทกับมะกรูด ทานกับสัปปะรดรมควันเเละซอสมะเขือดอง
จานนี้ผมประทับใจการผสมผสานกลิ่นของมะกรูดหอมเย็นกับสาโท ที่บาลานซ์ได้ดีมาก กลิ่นสาโทนั้นไม่มีความสาปหืนจากข้าวหลงเหลือในเนื้อไอซ์ครีมเนื้อเนียนนุ่ม เมื่อรับประทานกับตัดไอซ์ครีมรสหวานเนื้อนุ่มเเล้วนั้น มีรสเปรี้ยวหวานมีกลิ่นสโมกกี้จางๆช่วยชูรสเเละกลิ่นของไอซ์ครีมให้เด่นชัดยิ่งขึ้นอร่อยมาๆครับ เเต่ส่วนตัวว่าเมื่อรับประทานกับซอสมะเขือดองรสเปรี้ยวแล้วผมว่ารสเปรี้ยวเเละกลิ่นของมะเขือนั้นมันโดดเด่นไปนิด
ขนมหวานจานเเรกของเราเป็นเค้กหม้อเเกงกับไอซ์ครีมรสหอมเจียวเพิ่มความกรุบกรอบนิดนึงด้วยเม็ดบัวด้านบน เค้กหม้อเเกงเนื้อเนียนเเน่นที่ไม่หวานมากของทางร้านนั้นผสมผสานได้เป็นอย่างดีกับไอซ์ครีมหอมเจียวรสมันหวานเค็ม ถือว่าทำออกมาได้ดีเลยทีเดียวครับโดยเฉพาะไอซ์ครีมหอมเจียว ที่เข้ากับเค้กหอมเเกงได้อย่างดี
Petit four ของฤดูนั้น ไม่ได้เป็นเเค่ขนมหวานอย่างขนมน้ำดอกไม้หรือขนมกล้วยเเต่เพียงอย่างเดียว เเต่มีผลไม้สดที่คัดมาเเละตบเเต่งอย่างพิถีพิถัน โดยส่วนตัวผมชอบไอเดียนี้มากเพราะผลไม้ไทยนั้นมีความหลากหลายเเละดีไม่เเพ้ที่ใดในโลก
Score:
🍾Service : 7/10 🍽Food: 8.5/10 🤩WOW factor: 8/10 💰Value for money: 8/10
Total: 8/10
หากชอบบทความของผมยังไงรบกวนช่วยกดไลค์เพจเพื่อเป็นกำลังใจให้กับผู้เขียนด้วยนะครับ
เเผนที่ : https://goo.gl/maps/3po1qHjEggP2 เวลาเปิดปิด: 18.00-23.00 ค่าเสียหาย: ~3590++ เว็บไซต์ร้าน: http://www.ledubkk.com
ช่องทางติดต่ออื่นๆ IG: @eatliketheboss (https://goo.gl/DqzWfN ) FB: บอสพาชิม (https://goo.gl/gHPnnG) ชอบช่วยกดไลค์ ใช่ช่วยกดเเชร์ #บอสพาชิม #eatliketheboss
コメント