อา-หาร เป็นร้านอาหารไทยเเท้ที่มุ่งหวังจะยกระดับมาตราฐานอาหารไทยไฟน์ไดน์นิ่งขึ้น โดยทางร้านมีจุดเด่นในการคัดสรรค์วัตถุดิบจากภูมิภาคต่างๆของไทยเพื่อนำมาผสมผสานออกมาเป็นจานอาหารให้เรารับประทานกัน จนเป็นเหตุให้ทางร้านได้รับรางวัล Michelin Star หนึ่งดาว
ผมเคยขับรถหรือสัญจรผ่านร้านอาหารเเห่งนี้หลายครั้งหลายคราวเเต่กลับไม่เคยเเวะเข้ามาลองลิ้มชิมรสอาหารที่นี้เสียที คราวนี้นับเป็นครั้งเเรกที่ผมได้เเวะเวียนมาเยี่ยมรับประทานในห้องอาหารเเห่งนี้
ในวันนี้ผมได้มาถึงร้านก่อนเพื่อนร่วมโต๊ะทีมงานอีกท่านหนึ่งของเราพอสมควร โดยบริกรของทางร้านได้นำผมไปนั่งรอยังบริเวณรับรองก่อนนำขนมเบื้องรสเค็มหวาน เเป้งบางกรอบเเบบไม่มีไส้ ใส่กุ้งซากุระเเละผักชีมาให้รับประทานรองท้องไปพลาง
ระหว่างที่รอนั้น ผมถือโอกาสเปิดเล่มเมนูของทางร้านเล่นๆเเละพบว่าไวน์ลิสของร้านอาหารนั้นนับเป็นร้านไฟน์ไดน์นิ่งร้านเเรกๆในไทย ที่ผมเกิดความรู้สึกสิ้นหวังไม่รู้จะเลือกสั่งเครื่องดื่มอะไรเพราะตัวเลือกที่นอกจากจะมีความน่าเบื่อเเล้ว ตัวเลือกยังมีน้อยเสียเอามากๆ ซึ่งนับว่าน่าประหลาดใจพอสมควรสำหรับทีมงานของเราที่ถึงขนาดพูดถึงเรื่องนี้กันบนโต๊ะอาหารเลยทีเดียว จนกระทั่งผู้เขียนได้กลับมาดูเว็บไซต์ของทางร้านเเละพบว่าเล่มเมนูที่ผมพบในร้านกับข้อมูลบนเว็บไซต์นั้นมีความคลาดเคลื่อนพอสมควร ทางร้านมีไวน์อีกมากมายที่ไม่ได้มีลงในเล่มเมนูตรงนี้ผมเเนะนำว่าควรสอบถามกับบริกรของทางร้านเพื่อให้เราได้เครื่องดื่มที่ถูกใจเพื่ออรรถรสในมื้ออาหารนะครับ
อนึ่งในส่วนเครื่องดื่มนั้นยังมีข้อสังเกตที่น่าสนใจเล็กๆน้อยๆอีกอย่างคือ เเม้เป็นที่ทราบกันว่าทางร้านมีเจ้าของเดียวกับบริษัทเครื่องดื่มยักษ์ใหญ่ในประเทศไทย เเต่ผมกลับว่ามันดูขัดๆ ประหลาดใจที่ทางร้านดันมีเครื่องดื่มของบริษัทคู่เเข่งที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาอย่างยาวนานวางขายในร้านด้วย และมันนั้นเเสนบังเอิญที่บริษัทเครื่องดื่มคู่เเข่งที่ว่านั้นดันเป็นสปอนเซอร์ให้กับ Michelin guide ประเทศไทยพอดีด้วย มันช่างน่าสนใจจริงๆ :)
จุดเด่นที่ผมชอบมากๆของทางร้านเเละขอชื่นชมในโอเปอร์เรชั่นของทางร้านเลยคือ เมนูเซทที่สั่งนั้นเเม้มาเพียงเเค่สองคน ก็สามารถไม่เหมือนกันก็ได้(ทางร้านพึ่งเปลี่ยนรูปเเบบมาเหลือสำรับเเบบเดียวเมื่อไม่นานนี้) ทั้งๆที่ทางร้านเลือกเสริฟ์อาหารเป็นเซ็ทสำรับนับว่ากล้ามาก เพราะเป็นการสร้างความวุ่นวายให้กับระบบที่มีการเสริฟ์เป็นสำรับเเบบร้านอาหารไทยไฟน์ไดนน์นิ่ง
ในส่วนการบริการของทางร้าน ตอนเเรกผมนั้นขำปนโกรธนิดๆเพราะมีบริกรสองท่านเดิมผ่านมาพร้อมทั้งคุยกันเรื่องการขับถ่ายอย่างเปิดเผยจนกระทั้งผมส่งสายตาไปถึงได้หยุดเเละเดินหัวเราะไป โดยส่วนตัวผมว่าไม่ค่อยน่าอภิรมย์เท่าใดนั้นสำหรับลูกค้าที่กำลังรอรับประทานอาหารของทางร้าน เเต่ในตอนหลังความรู้สึกของผมดีขึ้นมากเนื่องจาก เห็นการเเนะนำอาหารอย่างตั้งใจจริงของน้องบริกรที่ยอดเยี่ยมดุจท่องสคริปมา เเม้อาหารในสำรับของเราจะมีกว่ายี่สิบชนิดเเต่น้องก็สามารถเเนะนำได้อย่างไม่ตะกุกตะกัก ครบถ้วนทุกรายละเอียดสุดยอดมากครับ
สำหรับอาหารของทางร้านนั้น ความรู้สึกของทีมงานของเราสำหรับอาหารที่ร้านนี้นั้นค่อนข้างสองสองจิตสองใจทั้งสองท่านที่ไปในวันนั้น แม้เท็คนิคในการปรุงเเละคุณภาพของวัตถุดิบจะไม่มีอะไรขาดตกบกพร่อง ในบางจานทีมงานของเราค่อนข้างชื่นชอบมีความกลมกล่อมลงตัวมีเอกลักษณ์เเละครบรสเป็นอย่างมาก เเต่ในขณะที่บางจานนั้นดูขาดๆเกินๆเหมือนเชฟเปลี่ยนบุคลิกเป็นคนละคน เหมือนจะว้าวเเต่ไม่ว้าว แม้มีความสร้างสรรค์เเต่รสกับคอมบิเนชั่นยังไม่ชวนให้เกิดความรู้สึกเซอร์ไพรส์
ในวันนี้ผมได้เลือกสั่งทั้งเซ็ทเมนู Royal Thai เเละ Amazing Thai จะมีอะไรบ้างไปชมจากรูปได้เลยครับ เนื่องจากรีวิวนี้ดองไว้ค่อนข้างนานเมนูอาจจะไม่อัพเดทเท่าที่ควร ตรงนี้เป็นความผิดของผู้เขียน เพราะโดยส่วนตัวรู้สึกว่าอาหารไทยนั้นเขียนรีวิวยากมากเพราะมีดีเทลยุบยับที่ยากจะอธิบายจนพาลขี้เกียจเขียนถึงร้านอื่นก่อน จะมีอะไรบ้างไปชมจากรูปได้เลยครับ
เครื่องดื่มcomplimentary แก้วนี้เป็นเครื่องดื่มล้างปากของทางร้านครับ เสาวรส น้ำตาลตโนด และโซดา จะได้ทั้งสองเซท
ผมจะเริ่มจากเซ็ท Royal Thai ก่อนนะครับ สำหรับเซทรอยัลไทยนั้นมี Amuse bouche เป็น ไส้กรอกปลาเเนมชาววัง รมควันมะพร้าว ควันมะพร้าวช่วยเพิ่มกลิ่นหวานหอมที่ปลายจมูกให้กับไส้กรอกปลาเเนมได้น่าสนใจเป็นอย่างมาก เเต่ส่วนตัวกลับรู้สึกว่ากลิ่นควันมะพร้าวนั้นขัดนิดๆกับกลิ่นเครื่องเเกงของไส้กรอกปลาเเนมอย่างงงๆ
ส่วนอาหารว่างนั้นจะเสริฟ์มาทีละสามคำมี คำเเรกด้านซ้ายคือ ยำทวายทราวดีใส่ปลาเเห้งจากปากน้ำโพ น้ำยำกระทิ ไก่ฉีก ไข่ และผักถึงหกชนิด ยำทวายเป็นหนึ่งในยำที่ผมชื่นชอบเพราะมีความกลมกล่อมไม่เปรี้ยวโดดมากนักเเละมีเครื่องที่หลายหลายทำให้เรารู้สึกสนุกไปกับมันเวลาเคี้ยวจากสัมผัสที่หลากหลาย ยำทวายของทางร้านในจานนี้นับเป็นยำทวายที่อร่อยเลยทีเดียวครับ ผมชอบการใช้ไข่เป็ดที่ช่วยเพิ่มความเข้มข้นเข้ากับน้ำยำกระทิได้อย่างดี เเต่ทว่าโดยส่วนตัวผมรู้สึกว่าผักในจานมีน้ำในตัวเยอะไปนิด ทำให้ยำจานนี้มีรสจืดชืดไปบ้าง
ตรงกลางเป็น กระทงทองเมี่ยงคำเสวย คำนี้น้องบริกรบอกว่าเป็นของทานเล่นสูตรโบราณ คำนี้อร่อยทีเดียวครับมีความหอมหวานกรุบๆของมะพร้าวคั่ว แฝงด้วยรสของพริกไทยดำที่เผ็ดซ่าๆร้อนๆนิดตัดกับความหวานของมะพร้าวคั่วเป็นส่วนเพิ่มความน่าสนใจให้กับคำนี้ได้ดีทีเดียว
ด้านขวานั้นคือพล่าปูเรไรไข่ข้น โดยด้านล่างจะเป็นเเป้งเหนียวๆที่ทำจากแป้งท้าวยายม่อมและแป้งข้าวเจ้าก่อนนำไปอบควันเทียน รับประทานกับพล่ากรรเชียงปูและไข่เป็ด ผมชอบรสพล่าในจานนี้เป็นอย่างมากปรุงรสมาได้อย่างกลมกล่อมมีความพอดีไม่กลบรสหวานของเนื้อปูเเต่ก็ยังมีรสพอให้เเป้งไม่รู้สึกจืดชืด เเต่ทว่าโดยส่วนตัวผมรู้สึกว่ากลิ่นไข่เป็ดนั้นค่อนข้างเเเรงไปจนกลบกลิ่นพล่าไปเลยละครับ
ส่วนซุปในชุดนี้จะเป็นนั้นคือ ต้มโคลงปลากรอบกับไข่ปลาเรียวเซียวอบดอกเกลือบ้านตุง ต้มโคล้งของที่นี้จะทำการเสริฟ์มาในไซฟ่อน กลิ่นปลากรอบที่หอมชวนน้ำลายสอ กลิ่นสมุนไพรชวนสดชื่น มีรสไม่เผ็ดจัดมากนัก เค็มนำ กลมกล่อมกำลังดี อร่อยมากครับ
มาต่อในส่วนของสำรับกันบ้างกับห่อหมกไก่นากระเพราป่ากะลาอ่อน โดยตัวห่อหมกเเล้วทั้งเครื่องเเกงเเละไส้นั้นอร่อยเลยทีเดียวครับ กลิ่นสารพัดสมุนไพรโดยเฉพาะกระเพราป่าหอมโดดเด่นเตะจมูกแฝงด้วยกลิ่นหวานนิดๆจากมะพร้าวได้อย่างลงตัว
เเต่มันกลับไม่ดีเท่าสิ่งที่มันเป็นได้โดยส่วนตัวคิดว่าเป็นเพราะผมสั่งอาหารเเบบคนละชุดจึงทำให้จานนี้เชฟต้องทำครึ่งportionจากปกติ จนทำให้จานนี้overcook เนื้อห่อหมกค่อนข้างเเข็งไปมากโดยเฉพาะบริเวณผิว คิดว่าหากจานนี้ทำเเบบเต็มกะลาจานนี้ต้องออกมาอร่อยมากทีเดียวครับ
เเสร้งว่าเค็มบักนัดกุ้งเเม่น้ำย่าง จานนี้เเม้หน้าตาจะดูคล้ายยำ เเต่รสนั้นไม่ใช่ยำครับจานนี้มีรสเค็มนำตามด้วยรสเปรี้ยวเเละเผ็ด รสของเครื่องเคียงนั้นตัดกับรสหวานของกุ้งเเม่น้ำเผาจากอยุธยาได้อย่างเอร็ดอร่อยอร่อย จานนี้เป็นจานที่มีรสจัดพอสมควรครับโดยทางบริกรเเนะนำให้เราทานกับข้าวซึ่งจะทำให้มันไม่เค็มเกินไป เเต่จานนี้ผมว่ากลิ่นกระเทียมในเครื่องจิ้มค่อนข้างฉุนไปครับมันเเรงจนกลบกลิ่นหอมควันของกุ้งเผาจนทำให้รู้สึกเสียอรรถรสไปพอสมควร
เเกงขี้เหล็กกับเนื้อวากิวจากโคราช จานนี้ทางร้านทำออกมาได้ดีทีเดียวครับ โดยส่วนตัวผมยังชอบเเกงขี้เหล็กเนื้อของร้านไทยMichelin star อีกแห่งมากกว่านิดๆ เเต่ที่นี้ก็เรียกว่าทำออกมาเป็นรสที่ใกล้เคียงกันเป็นอย่างมากในระดับ95% ตัวเเกงมีรสจัดจ้านถึงเครื่อง มีความเผ็ดร้อนหอมกลิ่นเนื้อ เท็กเจอร์ของเนื้อที่เหนียวนิดๆตัดกับดอกขี้เหล็กที่นุ่มละมุนลิ้น ช่วยให้เกิดความรู้สึกสนุกในปากได้เป็นอย่างดี อร่อยมากครับ
ผัดหน่อไม้ฟรั่งดอนตูมและปลากุเลาตากใบฟู จานนี้ดูบ้านสุดๆนี้คือความรู้สึกของทีมงานทั้งสองตอนอ่านเมนูเรียบง่ายจนไม่รู้ว่ามาอยู่ในเมนูได้ยังไง เเต่มันเป็นหนึ่งในจานที่เราประทับใจที่สุดในมื้อนี้อย่างเเน่นอน หน่อไม้ฟรั่งสดใหม่รสหวานกรอบนั้นถูกเคลือบด้วยรสเข้มข้นกลมกล่อมของตัวซอสน้ำมันหอย ความวิเศษของมันอยู่ที่ตัวผักที่ยังคงกรอบสดเเต่มีกลิ่นหอมกะทะ รสที่แสนเข้มข้นเเต่กลับไม่มีซอสล้นเลอะเทอะ ปลากุเลาฟูนั้นนอกจากจะช่วยเพิ่มกลิ่นหอมอันสุดเเสนวิเศษเหมือนทีโป้วชั้นยอด แแล้วยังมีเท็กเจอร์ที่ช่วยเพิ่มความสนุกสนานในปาก เป็นจานที่ดูธรรมดาเเต่ทว่าส่วนตัวว่าทำมาได้ดีมากๆครับ
มาต่อกันกับ เซ็ทAmazing Thai
ในส่วนอีกสำรับคืออะเมสซิ่งไทยนั้น Amuse Bouche อันเเรกคือปลาเเห้งเเตงโมสิงห์บุรีสี่รส ที่ประกอบด้วยเเตงโม ปลาเเห้งจากสิงห์บุรี โดยเเทนที่จะใช้เป็นเเตงโมปกติทางร้านเลือกเอาน้ำเเตงโมมาทำเป็นเยลลี่ ตรงนี้ต้องชื่นชมในความคิดเเต่โดยส่วนตัวทีมงานทั้งสองของเรากลับรู้สึกว่าเยลลี่นั้นเเตงโมรสไม่ออกทำให้ไม่มีความสดชื่นของเเตงโมเเบบที่ควรจะเป็น
จานถัดมาเสริฟ์ทีสามคำครับประกอบด้วยจากซ้ายไปขวา
คำเเรกคือปลาร้าหลบเอสพูม่า ที่ประกอบด้วยข้าวเกรียบ เอสพูม่า(ครีมโฟม)กระทิและปลาร้า ที่ขอบอกว่าดีงามจากใจครับ โดยส่วนตัวผมเป็นคนที่เกลียดปลาร้าอย่างรุ่นเเรง เเต่คำนี้ของที่นี้เมื่อเข้าปากเเล้วกลับไม่มีกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ของปลาร้า เหลือเเต่รสเข้มข้นเเสนอร่อยอุมามิที่ถูกห่อหุ้มอย่างอ่อนโยนด้วยครีมกระทิที่ช่วยให้คำนี้กลมกล่อมโดนเด่นอย่างน่าสนใจ ยอดเยี่ยมเลยครับ
คำตรงกลางนั้นเป็น ตับไก่นาหน้าตั้ง ซึ่งทำจากข้าวตัง ตับไก่ และ ซอสไข่เเดง ตัวข้าวตังนั้นกรุบกรอบสดใหม่ไม่เหม็นหืน ส่วนตัวตับไก่นานั้นเเม้ไม่ได้เข้มข้นเเบบโฟรกราเเต่ก็ละมุนไม่คาว ถือว่าทำมาได้ดีครับ เเต่ตัวที่ทำให้ผมไม่ชอบจานนี้คือซอสจากไข่เเดงด้านบนที่กลบกลิ่นของตับไก่เสียหมดจนเหลือเเต่กลิ่นไข่เเดง
ยำหัวปลีเมืองเหนือกุ้งลายเสือเมืองใต้ คำนี้ทำมาได้ดีครับรสกลมกล่อมเปรี้ยวนำแฝงรสเผ็ดซ่าๆ ซึ่งช่วยขับรสหวานของเนื้อกุ้งได้เป็นอย่างดี หัวปลีไม่เเข็งกระด้างกรุบๆเคี้ยวเพลินๆ
จาน Complimentary ของทางร้านซึ่งเราจะได้ทั้งสองชุดนะครับ ในวันนี้เป็นเส้นปลาหมึก ใบชะพูล และเเกงคั่วเนื้อปู รับประทานกับหัวหอมดอง ตัวเเกงทำออกมาได้ดีเเต่ไม่ได้รู้สึกว้าวอะไร ส่วนตัวรู้สึกว่ารสหวานของหัวหอมดองนั้นช่วยตัดเปรี้ยวเเต่ว่ามันหวานโดดไปนิดนิดทำให้จานนี้ไม่สมดุล
สำหรับซุปของเซ็ทนี้คือต้มยำกุ้ง ชามนี้ผมว่าทำรสออกมาได้กลางๆไม่เข้มข้นรสเผ็ดจัดจ้าน ออกเเนวต้มยำกุ้งน้ำใส มีรสไม่เปรี้ยวโดดมากนักจนไม่ทำลายสมดุล ต้มยำที่นี้นั้นจะเสริฟ์มาเเบบซุปกินก่อนอาหารไม่ใช่เป็นเเกงกินกับข้าวทางร้านจึงทำมาไม่จัดจ้านตรงนี้เเสดงให้เห็นถึงความรอบคอบของทีมงานเชฟของร้าน
หลนปูมาปากน้ำบางตะบูน หลนของที่นี้ถ้าหากให้เทียบกับเจ้าดังเจ้าอื่นในมิชลินไกด์ที่ผมเคยกินอย่างแล้วสองสามเจ้าผมยังชอบน้อยกว่าครับ หลนที่นี้ไม่ข้นกินง่าย ครีมมี่น้อยกว่าทำให้ได้รสหวานของปูอย่างเด่นชัดกว่า ตัวเนื้อปูนั้นหวานสดอร่อย เเต่หากเอาผักที่เเนมมาจิ้มกินเเล้วผมรู้สึกว่ามันรสอ่อนไปนิดจริงๆ
ผัดเผ็ดหมูป่าหน่อกระวานจันทรบูร ผมนั้นชอบผัดเผ็ดหมูป่าของที่นี้มากครับ ตัวเนื้อหมูป่าไม่เหนียวเเข็ง ตัวหน่อกระวานที่ส่งกลิ่นเฉพาะตัวช่วยกลบกลิ่นเนื้อหมูป่าได้อย่างยอดเยี่ยม เป็นอีกจานที่ยอดเยี่ยมเเตกต่างจากร้านทั่วๆไปครับ
แกงคูนปลาเกลือสุโขทัยกับปลาเก๋าเเดงย่างถ่าน เเกงคูนของที่นี้ดีมากรสเผ็ดร้อนจัดจ้านนำก่อนตัดด้วยรสเค็มละมุนจากปลาเกลือ กลมกล่อมลงตัว ตัวก้านคูนนิ่มน้ำเเกงต้มถึงเนื้อ ตัดกับรสปลาเก๋าเนื้อแสนกรอบหวาน เป็นอีกจานที่ประทับใจครับ
จานสุดท้ายเป็นผักหวานป่าไข่ป่ามลามทุ่ง จานนี้ผมชอบการผสมผสานไข่สามชนิด อย่างไข่มดเเดง ไข่ปู เเละไข่ไก่ ได้อย่างกลมกลอม เเละเข้ากับผักหวานได้อย่างลงตัวครับ
มาในส่วนของขนมหวานกันบ้าง
ในส่วนของของหวานสำหรับเซ็ทรอยัลไทยนั้นคือ ขนมตาลหอมเพชรบุรีทานคู่กับไอศครีมกะทิรสเเตงไทยและน้ำตาลตโนด ขนมตาลของทางร้านทำมาได้ดีตัวเนื้อมีความนิ่มเเละฟู ผมยังรู้สึกว่ามันยังธรรมดาไม่เเตกต่างจากขนมตาลร้านอื่นเท่าใดนัก ส่วนตัวไอศครีมนั้นกลับทำมาได้ดีที่เดียวครับ เนื้อเนียนมีกลิ่นหอมเย็นจากเเตงไทยเเละความหวานละมุนจากน้ำตาลตโนดที่ปลายลิ้น เเต่ส่วนตัวกลับรู้สึกว่าการจับคู่ไอศครีมกับขนมลูกตาลยังแปลกๆอยู่ เเละไม่น่าสนใจเท่าที่ควร
สำหรับขนมหวานของเซ็ทAmazing Thai นี้คือ ข้าวเหนียวกับไอศครีมมะม่วงภักดี และไอศครีมกระทิสด ตัวขนมหวานจานนี้เเม้ในเมนูบอกว่าคือมะม่วงภักดีเเต่บริกรนั้นบอกว่ามันเป็นพาร์เฟต์ทำจากมะม่วงอกร่อง น้ำดอกไม้ และมหาชนก
ข้าวเหนียวมะม่วงนับเป็นขนมไทยที่รู้จักกันอย่างเเพร่หลายไม่เพียงเเต่ชาวไทยเเต่รวมถึงชาวต่างประเทศอีกด้วย นอกจากนี้มันยังเป็นอีกเมนูที่ถูกดัดเเปลงอย่างมากมาย โดยส่วนตัวผมว่าพาร์เฟต์มะม่วงของที่นี้เเม้ใช้มะม่วงหลายสายพันธุ์ เเต่ส่วนตัวผมเเยกไม่ออกว่าโดดเด่นเเตกต่างกับที่อื่นอย่างไร ตัวรสหวานอมเปรี้ยวนั้นผมว่าเป็นเสนห์ของมะม่วงสุก ซึ่งพาร์เฟต์ของที่นี้นั้นจะเน้นไปที่รสหวานเเต่เพียงอย่างเดียว ทำให้เมื่อรับประทานกับกระทิเเละข้าวเหนียวจะค่อนข้างเลี่ยนเเละหนักไปบ้าง
Petitfourของทางร้านซึ่งทั้งสองสำรับจะเหมือนกันครับ ได้เเก่
ดาราทอง
ลูกชุบ
บ้าบิ่นมะพร้าวอ่อน
วุ้นมะพร้าวอ่อน
🍾Service : 7.75/10
🍽Food: 6.75/10
🤩WOW factor: 7/10
💰Value for money: 7.5/10
Total: 7/10
🗺เเผนที่ : https://g.page/RHAANThai?share
⏰เวลาเปิดปิด: 6PM-11PM
💵ค่าเสียหาย: ~6000ฺ Baht++ for 2 set menu
⌨️เว็บไซต์ร้าน: https://www.r-haan.com/
ช่องทางติดต่ออื่นๆ
Website: www.eatlikethebossth.com
InstaGram: @eatliketheboss (https://goo.gl/DqzWfN )
FaceBook: บอสพาชิม (https://goo.gl/gHPnnG)
Email : eatlikethebossth@gmail.com
ชอบช่วยกดไลค์ ใช่ช่วยกดเเชร์ #บอสพาชิม #eatliketheboss
Comentarios