Mar 12, 2021

About Eatery

สวัสดีครับ ในวันนี้ผมได้รับเชิญไปลองเมนูใหม่ของร้าน About Eatery ร้านอาหารอิตาลีย่านอโศก ขวัญใจของหลายๆท่าน อาหารเเม้ดูเรียบง่ายเเต่ไม่ธรรมดา ในคราวนี้ได้ไปลองชิมเมนูใหม่เเกะกล่องของร้านกันครับ

หากกล่าวโดยสรุปผมต้องบอกว่าอาหารของที่นี่เป็นสไตล์modern trattoria ที่ยังมีความRusticบ้านๆแฝงอยู่เพื่อให้เข้าถึงง่าย รสเรียบๆไม่จัดจ้าน เเต่รับรู้ได้ถึงความปราณีต อาหารทุกจานเเม้ดูเรียบง่ายเเต่ทำออกมาได้ดีเเละใส่ใจเป็นอย่างยิ่ง โดยเน้นหลักไปที่คุณภาพวัตถุดิบที่ดีตามฤดูกาล วัตถุดิบออเกนิค โดยเชฟ Lorenzo Rosso culinary director คนใหม่ของทางร้านได้กว่าว่าทางร้านพยายามจะทำทุกอย่างเองในครัวให้หมดเท่าที่จะทำได้ตั้งเเต่ต้น ซอส เส้นพาสต้า

นอกจากนี้ ทางร้านยังถือโอกาสปรับปรุงโซนพาสต้า ที่เราจะได้เห็นเชฟของทางร้านทำเส้นพาสต้าจะเครื่องBigolaroที่ได้รับการสืบทอดกันมาเเล้วหลายชั่วอายุคนเเต่ยังคงใช้งานได้ดี โดยเส้นของที่นี้จะทำกันวันต่อวันไม่เหลือเก็บ

เชฟ Lorenzo ยังให้ความรุ้เพิ่มเติมเกี่ยวกับพาสต้าอีกด้วยว่า พาสต้านั้นมีมากมายหลายชนิดโดยมักจะอิงกับวัฒณธรรมเเละประวัติศาสตร์ของเเต่ละพื้นที่

พาสต้าของทางร้านที่หากจะเเบ่งเป็นสองประเภทใหญ่ๆเเล้วจะมี แบบที่ใช้แป้งSemolinaกับน้ำเท่านั้น เเละ เเบบที่ใช้แป้งSemolinaน้ำเเละไข่ เชฟพุดขึ้นพลางแนะนำเส้นพาสต้าเเต่ละเเบบ “Taglioliniนี้เข้ากับเห็ดทรัฟเฟิลมากๆ”

“macheloniนี้เป็นOriginal Macaroni ที่มีหน้าตาคล้ายคลึงกันเเต่ตัวเส้นจะยาวกว่า”

โฉมหน้าเครื่องBigolaro

หลังจากได้เกล็ดความรู้เกี่ยวกับพาสต้านิดหน่อยเเล้ว ทางเราก็ได้มานั่งที่โต๊ะเพื่อเริ่มต้นมื้ออาหารกันครับ

ระหว่างรอมื้ออาหาร เราก็มีขนมปังออกมาให้รองท้องกันก่อน โดยขนมปังที่นี้มีความน่าสนใจตรงมีการใส่แครอทสับลงไปด้วย ส่งผลให้ได้รสชาติที่มีเอกลักษณ์ของความเอิร์ธตี้แครอทๆ ส่วนเท็กเจอร์นั้นเนื้ออกเเนวRusticๆไม่เหนียวมาก ผิวกรอบบางๆ

โซน Cold cut ที่เราสามารถเลือกแฮมชนิดต่างๆมาลองได้เเบบละนิดละหน่อย เป็นกรัมๆร้านก็ขายครับ

โซนไวน์ที่เน้น Organic & Natural Wine

มาถึงในส่วนของอาหาร จานเเรกที่ผมอยากพูดถึงคือสลัดRadicchio หรือพืชหน้าตาคล้ายกะหล่ำม่วง พูดถึงจานสลัดเเล้วสำหรับสายกินผักแล้วมักพบว่าเมนูเเต่ละร้านนั้นค่อนข้างจำเจ เเต่ไม่ใช่สำหรับสลัดจานนี้เเน่ๆ รสชาติเปรี้ยวอมหวานของน้ำสลัดที่ทำจากถั่วเหลืองเเละบัลซามิคเข้ากับรสขมชุ่มคอของRadichio ความหอมสดชื่นของCeleryและรสพริกไทยดำนิดๆช่วยเพิ่มความอยากอาหารให้มากขึ้น สุดท้ายคืออัลม่อนต์ฝานที่ช่วยเติมเต็มกลิ่นเเละเท็กเจอร์ให้ลงตัวยิ่งขึ้น โดยรวมเป็นสลัดที่น่าสนใจครับชุ่มคอดีทีเดียวเเต่ถ้าคนที่ไม่ชอบรสเฉพาะของRadichioอาจจะไม่ชอบนัก

Appptizer จานต่อมาเป็นCarpaccio เนื้อวัว กับทรัฟเฟิลสไลด์และเห็ดเเชมปิยอง ความน่าสนใจในจานนี้เห็นจะเป็นซอสมายองเนสที่ใช้สูตรของ Harry’s Bar บาร์ระดับตำนานในเวนิสที่คิดค้นCarpaccioครับ จานนี้เป็นจานที่ดูเรียบง่ายเเต่อร่อยเเละเเสดงถึงความเป็นร้านนี้ได้ดี เมื่อเข้าปากเราจะได้ความอร่อยของเนื้อแดงของวัวที่เเสนนุ่ม ความเปรี้ยวและครีมมี่มาโยนิดๆนั้นเข้ากับเนื้อได้อย่างลงตัว ความเขียวเบาๆของใบร็อคเก็ต กลิ่นของทรัฟเฟิลนิดๆ รสเอริธตี้ครีมหน่อยๆของเห็ดเเชมปิยองที่ช่วยผสมผสานทุกอย่างให้ลงตัวในคำเดียว เป้นจานที่เรียบง่ายปรุงเเต่งไม่เยอะ รสเบาๆเเต่ครบรส ทำได้ดีทีเดียวครับ

Appitizer จานถัดไปของเราเป็น เค้กเนื้อปูที่ขอบอกว่าเนื้อเเน่นมากๆ รสหวานของเนื้อปูเข้ากันได้ดีกับทั้งความครีมมี่ของซอสทาร์ทาร์และรสเผ็ดนิดๆเปรี้ยวอมหวานในอาราเบียต้าซอส ความน่าสนใจในจานนี้คือตัวทาร์ทาร์กับอาราเบียต้ามันดันเข้ากันดีมากๆเลยยิ่งช่วยชูรสเนื้อปูได้ดีมากครับ อร่อย!

Seafoodทอด ของทอดและซีฟู้ดยังไงก็เป็นที่ชื่นชอบ เเต่ความพิเศษของที่นี้คือเชฟจะเสริฟ์มาพร้อมกับsoft plentaหรือโจ๊กข้าวโพดอิตาลี ที่นอกจะช่วยเพิ่มความมันเข้มข้นและยังเพิ่มเท็กเจอร์กรุบๆในปากอีกด้วย เป็นจานง่ายๆที่ทุกท่านควรจะลอง

มาถึงจานที่ผมชื่นชอบมากที่สุดในมื้อนี้อย่างหอยเชลล์ โดยเชฟนำมันไปห่อกับGuanciale หรือเบค่อนอิตาลี เสริฟ์มาพร้อมกับถั่วFava เเละ Emulsion Presto หอยเชลล์รสหวานเนื้อแน่นถูกนำมาSearให้ผิวกรอบนิดๆ ก่อนจะเพิ่มความเข้มข้นด้วยGuanciale ที่ต้องยอมรับว่าเซอร์ไพรซ์เพระามันเข้ากันหอยเชลล์ได้ดีมากๆ รสมันเขียวนิดๆของถั่วฟาว่าช่วยเชื่อมรสหอยเชลล์กับเพรสโต้อิมูชั่นรสโปร่งสดชื่นเเละช่วยทำให้Guancialeไม่หนักไป

Tagliolini ซอสดำกับปลาหมึกตุ๋น ตัวเส้นทำมาได้ดีจริงๆครับ ถือเป็นหนึ่งในร้านที่ผมว่าดีที่ทำเส้นได้ดีที่สุดในกทม. เส้นTaglioliniยังคงเหนียวกรุบๆนิดเเม้จะคลุกซอสมาอย่างเข้มข้น ซอสรสไม่จัดมากเค็มอมหวานหอมกลิ่นทะเลเข้ากับตัวเส้นดำได้ดี เนื้อปลาหมึกหนึบเนื้อนุ่มๆ เรียบง่ายเเต่เหมือนที่ผมเคยทานที่อิตาลีเลย อร่อยครับ

ตัวพาสต้าอีกจานนึงของเรา เป็นBigoli เส้นพาสต้าจากเมืองเวนิสที่มีรูปทรงคล้ายสปาเก็ตตี้เเต่หนากว่า โดยพาสต้าของที่นี้ไม่เพียงเเต่ Bigoli เเต่หลายๆตัวจะทำจากเครื่องBigolaro ตัวเส้นBigoli จะออกหนาๆ หนุบๆ เเต่ไม่เหนียว เข้ากับซอสรสเข้มข้นอย่าง Amatricianaที่มีรสเปรี้ยวหวานสดชื่นอมเผ็ดนิดๆได้อย่างลงตัว ตัวเเก้มวัวตุ๋นก็ทำมาได้ดีครับ เนื้อนุ่มรสซอสเข้าเนื้อ

ปลาหมึกยักษ์สไตล์Luciana เป็นMainจานแรกที่ผมได้ลองชิม อาหารจานนี้เป็นอาหารที่มีต้นกำเนิดจากNaple แต่เชฟนำมาดัดแปลงนิดนึง โดยนำน้องปลาหมึกยักษ์ไปย่างก่อนเสริฟ์มาพร้อมกับซอสLucianaที่ทำจาก มะกอก เคเปอร์ มะเขือเทศ ออริกาโน่ และเสริฟ์มาพร้อมกับมันบด สิ่งที่ผมชอบในจานนี้เลยคือเนื้อปลาหมึกที่ไม่เหนียวมีรสเผ็ดอ่อนเเละกลิ่นหอมควันนิดๆทำได้ดีมาก ตัวซอสรสเค็มอมเปรี้ยวช่วยชูรสหวานของเนื้อปลาหมึกได้ดี เเต่สิ่งที่ไม่น่าเชื่อว่าจะออกมาดีขนาดนี้คือมันบดครับ เนื้อที่ค่อนข้างเหลวให้ความรู้สึกฟูเบาไม่เเน่นเกินไปเเต่ยังคงมีรสชาติที่เข้มข้นหอมมันฟรั่ง จานนี้ยังคงเป็นอีกจานที่เรียบง่ายเเต่ทำด้วยความใส่ใจ

จานหลักอีกจานของเราเป็น Lamp Chop scottadito เสริฟ์มาพร้อมกับมันอบเเละratatouille คำว่าscottaditoนี่เเปลตรงตัวเเปลว่านิ้วพองหรอว่าเจ้าเกะจานนี้อร่อยจนต้องรีบเอาหยิบมากินทั้งทียังร้อนๆ ตัวเเกะทำได้ดีเลยครับนุ่มไม่คาว ไม่ชุ่มเลือด หอมเย็นจากโรสแมรี่อ่อนๆ ตัวratatouille ที่ทำได้อร่อยครับ ผักไม่เละเกินไปเเต่มีรสเข้มข้นเปรี้ยวอมหวานของมะเขือเทศอย่างเต็มเปี่ยม

ขนมหวานของที่นี่รสไม่หวานมากครับทำออกมาได้เรียบๆเเต่อร่อยทีเดียวโดยทั้งหมดจะเป็นHome Made ไม่ว่าจะเป็น