SOM’s Table 🍽(Prachuap khiri khan,Thailand🇹🇭)
The Place 🏠: ผมเดินเข้าซอยตามสายลมเเละเสียงคลื่นของหาดเขาเต่าเข้ามา เราก็จะพบกับบ้านไม้ขาวสองชั้นสะอาดตาที่แสนน่ารัก ด้านหน้ามีสวน Garden Herb เล็กๆ พร้อมทั้งบริเวณที่นั่งแสนน่ารัก ริมหาด ใช่ละครับที่นี่เป็นร้าน Som’s Table ร้านอาหารที่กำลังมาแรงในหัวหิน ผมประทับใจบรรยากาศของร้านมากๆ แม้จะดูเรียบๆแแต่มีทั้งความชิลๆและโรแมนติกสุดๆ
The Chef 👩🍳 : ผมเป็นแฟนอาหารของเชฟส้ม จุฑามาศ เทียนแท้ มาตั้งสมัยแกดูแลครัวของร้าน Karmakamet Conveyance และเฝ้ารอโอกาสที่จะได้กลับไปกินอีกครั้ง ก่อนที่เชฟจะออกมาเปิดร้านของตัวเอง เนื่องจากเชฟมีเเบล็คกรานด์การไปเรียนต่อยังประเทศอินเดีย มาเป็นระยะเวลาหนึ่ง ทำให้ปรากฏกลิ่นอายของอาหารอินเดียในหลายๆจาน ซึ่งเปรียบเสมือนลายเซ็นต์ของเชฟ
Food 🥘 : อาหารของ Som’s Table นั้นเป็นอาหารอาหารยุโรป comfort food จานง่ายๆที่เราคุ้นเคย โดยเมนูจะเปลี่ยนไปทุกวันตามแต่วัตถุดิบที่มีและไอเดียของเชฟ คุณอาจจะได้ลองอาหารจานนึงในครั้งก่อนที่พอกลับมาอาหารจานนั้นอาจจะเปลี่ยนไปแล้ว
อาหารของเชฟส้มเป็นสิ่งที่ผมเรียกว่า เรียบง่ายแต่ทว่าซับซ้อน ในจานอาหาร comfort food ที่ปรากฏนั้น มีทั้งมิติของรสชาติและกลิ่นแฝงอยู่มากมาย โดยเฉพาะกลิ่นเครื่องเทศและสมุนไพรต่างๆที่เราจะพบได้ในหลายจาน
Highlight ✨: แน่นอนว่าเมนูที่ไม่ควรพลาดเลยคือ Daily Pasta โดยในวันนี้เป็น Fettuccine กับ Beef shank (890-) แม้จะมีราคาค่อนข้างสูงแต่ผมก็ประทับใจครับ เฟสตูชินี่เส้นสดเนื้อเด้ง คุณภาพของมันดีไม่เเพ้ร้านอาหารอิตาลีชั้นนำในเมืองกรุงเลย กับซอสครีมรสเข้มเเต่ไม่มันเลี่ยนหอมกลิ่นเครื่องเทศอ่อนๆ ก่อนตัดรสด้วยมะเขือเทศลูกเล็กฉ่ำเนื้อเปรี้ยวอมหวาน รับประทานกับเนื้อวัวตุ๋นชิ้นโตที่หอมกลิ่นสมุนไพร เนื้อไม่ละลายยังพอให้เคี้ยวที่ชอบเป็นพิเศษเห็นจะเป็นผิวกรอบบางๆบนเนื้อวัวที่ส่งกลิ่นหอมควันอ่อน ประทับใจครับ
อีกจานที่อยากให้ลองเเบบไม่ด้อยค่า คือ baguette(160-) มันดีมากกกจนน่าตกใจ -ขนมปังอบมากรุ่นๆ เนื้อฟู ตัวผิวไม่หนากรอบเคี้ยวง่าย มีกลิ่นควันนิดๆ อร่อยมากครับ กินเปล่าๆยังอร่อย ผมกับเพื่อนร่วมโตีะกินหมดในพริบตาอย่างไม่กลัวอ้วน
ในมื้อนี้จะมีอะไรบ้างไปชมจากรูปได้เลยครับ
สตอเบอรรี่เคลือบด้วยเยลลี่อามาเรตโต้ คำนี้เป็นcomplimentaryจากเชฟส้ม ตัวสตอเบอร์รี่ลูกโตนั้น ไม่ใช่เเค่ลูกโตเเต่ยังหวานและหอมไม่ค่อยเปรี้ยว เข้ากันได้ดีกับเยลลี่รสอ่อนๆไม่หวานนักมีกลิ่นamaretto บางครับ
จานต่อมาเป็นBaraccuda /Bean stew / ratatouille (790-) หรือ สตูถั่ว ราตาตุยมะเขือเทศเเละมะเขือม่วง ออนท็อปด้วยปลาสากหรือBaracudaและกุ้งทะเลครับ
แม้เป็นจานที่องค์ประกอบเยอะ เเต่เชฟบาลานซ์รสได้ดีและอร่อยมากครับ ตัวสตูมีรสอ่อนๆครีมมี่นิดๆ หวานถั่วที่สุกำลังดีไม่เละ มีกลิ่นควันจากเบค่อนและหัวหอมคาราเมลไลซ์ แต่ยังคงความอุมามิของซีฟู้ดไว้ได้อย่างดี เพิ่มความเข้มข้นเเละรสเผ็ดนิดๆให้ไม่เบื่อนักด้วย green olive tapenade ที่ตัดกับรสหวานฉ่ำของratatouille ได้เป็นอย่างดี ก่อนปิดท้ายด้วยซีฟู้ดคุณภาพสูงอย่างกุ้งทะเลเนื้อเด้งกรอบและปลาสากที่เเม้ชื่อจะสากเเต่เนื้อกรุบเเน่น อร่อยมาก เป็นจานที่ดูเรียบง่าย ทานง่าย เเต่ทว่าซับซ้อนเเละลงตัวเป็นอย่างมาก ควรค่าเเก่การลองลิ้มครับ
สำหรับ ขนมปังBaguette(160-) ที่เราสามารถเลือกว่ารับประทานกับเนยหรือน้ำมันมะกอก อันนี้เป็นสิ่งที่มีอยู่ในเมนูแบบงงๆ มันเป็นเหมือนของว่างมากกว่าอาหารที่ปรุงอย่างปราณีตและซับซ้อน แต่อย่าด้อยค่ามันครับ มันดีมากกกจนน่าตกใจ ผมได้ความว่าขนมปังที่นี้ทำเองเเละอบสดใหม่ทุกวัน ขนมปังในวันนั้นอบมากรุ่นๆ เนื้อฟู ตัวผิวไม่หนากรอบเคี้ยวง่าย มีกลิ่นควันนิดๆ อร่อยมากครับ กินเปล่าๆยังอร่อยเลยครับ ผมกับเพื่อนร่วมโตีะกินหมดในพริบตาอย่างไม่กลัวอ้วน คงการรันตีถึงความดีงามของมันได้
จานนี้หากใครเป็นเเฟนๆของเชฟส้มจากร้านเก่าคงคุ้นเคยดีอยู่ครับกับ House smoked fish bites (2pcs/390-) เป็นข้าวผสมซัมบัล(Sambal)เเละเพรสโต้ ออนท็อปด้วยปลาจินดาระรมควัน หน้าตาคล้ายซูชิ ตัวข้าวอารมณ์คล้ายกับข้าวมันทีมีกลิ่นหอมเขียวสดชื่นอ่อนๆและรสเผ็ดนิดๆ ตัดกับปลารสมันที่มีกลิ่นหวานๆของควันกลิ่นไม้แอปเปิลได้อย่างมีชั้นเชิง เป็นอีกซิกเนเจอร์ที่ควรลองครับ
Fettuccine กับ Braised Beef shank (890-) แม้จะมีราคาค่อนข้างสูงแต่ผมก็ประทับใจครับ เฟสตูชินี่เส้นสดเนื้อเด้ง คุณภาพของมันดีไม่เเพ้ร้านอาหารอิตาลีชั้นนำในเมืองกรุงเลย กับซอสครีมรสเข้มเเต่ไม่มันเลี่ยนหอมกลิ่นเครื่องเทศอ่อนๆ ก่อนตัดรสด้วยมะเขือเทศลูกเล็กฉ่ำเนื้อเปรี้ยวอมหวาน รับประทานกับเนื้อวัวตุ๋นชิ้นโตที่หอมกลิ่นสมุนไพร เนื้อไม่ละลายยังพอให้เคี้ยวที่ชอบเป็นพิเศษเห็นจะเป็นผิวกรอบบางๆบนเนื้อวัวที่ส่งกลิ่นหอมควันอ่อน ประทับใจครับ
Aromatic risotto กับ sienna spiced lamb rack (890-)จานนี้สั่งเพราะจำได้ว่าเชฟย่างแกะได้อร่อยครับ ตัวรีซอตโต้ข้าวนุ่มเเต่ไม่เละ รสหวานอ่อนๆมีความเเปลกใหม่ดีไม่เลี่ยน มีความเข้มข้นจากชีสPamesanบางๆ มีกลิ่นเขียวสดชื่นคล้ายเพรสโต้นิดๆและกลิ่นอายเครื่องเทศอินเดียอ่อนๆ ตัดรสกับเเกะที่ปรุงรสมาเรียบๆเค็มอ่อนๆ มีกลิ่นหอมจากเครื่องเทศนานาชนิดเเละผิวส้ม เนื้อไม่สาบ นุ่ม อร่อยมาก ที่ชอบเป็นพิเศษเห็นจะเป็นรสเค็มนิดๆของเนื้อที่เข้ากันได้ดีรีซอตโต้ที่ครีมมี่หวานอ่อนๆครับ เป็นอีกจานที่ทำออกมาได้อย่างปราณีตทีเดียว
Amaretto cheesecake เป็นขนมหวานในวันนี้ครับ ตัวแป้งค่อนข้างแข็งโดยส่วนตัวผมชอบแป้งสไตล์ร่วนๆนิดนึง เเต่ตัวครีมชีสนั้นทำออกมาได้ดีเนื้อเนียน ไม่เหนียวเเข็ง มีรสหวานไม่มากตัดกับรสชีสอ่อนที่แฝงด้วยความหอมนิดๆของamarettoที่ลงตัว
#Score: AD
🗺เเผนที่ : https://goo.gl/maps/t6oF9StG3e7yWS4r7
⏰เวลาเปิดปิด: 4–10PM
💵ค่าเสียหาย: ~5500 Baht
⌨️เว็บไซต์ร้าน: https://www.somstable.com/
เราเป็นเพจรีวิวร้านอาหาร Fine dining แบบจริงใจและเจาะลึกทั้งในไทยทั่วโลก
ชอบช่วยกดไลค์ ใช่ช่วยกดเเชร์ เพื่อเป็นกำลังใจให้เรา #บอสพาชิม #eatliketheboss
Website: www.eatlikethebossth.com
InstaGram: @eatliketheboss (https://goo.gl/DqzWfN )
FaceBook: บอสพาชิม (https://goo.gl/gHPnnG)
Blogdit: https://www.blockdit.com/eatliketheboss
Email : eatlikethebossth@gmail.com
コメント